กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see


News

ข่าว เจาะเทรนด์ Digital Identity กับ Sumsub หนึ่งในผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนชั้นนำของโลก

News 

Active member

สมาชิกทีมงาน
Moderator
Collaborate
เมื่อโลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น Digital Identity หรือ อัตลักษณ์ตัวตนดิจิทัล ก็ยิ่งมีความสำคัญมากกว่าเดิม เพราะมันคือสิ่งที่สามารถระบุตัวตนบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้หากมีข้อมูลที่เพียงพอ ยิ่งถ้าตกไปอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดีก็ยิ่งสร้างผลกระทบให้กับบุคคลดังกล่าวได้อย่างมาก

ดังนั้นแพลตฟอร์มต่าง ๆ จึงเริ่มให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยกับ Digital Identity มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียกับผู้ใช้งาน แต่ก็ต้องแลกมากับความไม่สะดวกในบางประการ เช่น การยืนยันตัวตนที่ยุ่งยาก หรือหากยืนยันตัวตนผิดพลาดกว่าจะได้บัญชีผู้ใช้กลับมาก็ต้องเสียเวลานาน

จุดนี้เองจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ Sumsub ผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนด้วยแพลตฟอร์มกลางจะเข้ามาตอบโจทย์ ซึ่ง Blognone มีโอกาสพูดคุยกับ Penny Chai รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (APAC) ของ Sumsub เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้เรื่องราวของ Digital Identity และรูปแบบธุรกิจของ Sumsub ดังนี้

เจาะเทรนด์ Digital Identity กับ Sumsub หนึ่งในผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนชั้นนำของโลก-1.webp


จากอัตลักษณ์ทางกายภาพสู่โลกดิจิทัล

Penny Chai เริ่มต้นโดยชี้ให้เห็นว่าในอดีต อัตลักษณ์ของบุคคลถูกผูกติดอยู่กับความเป็นจริงทางกายภาพ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล อัตลักษณ์ได้ขยายขอบเขต และเกิดเป็น Digital Footprint ผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ดังนั้นการมี Digital Identity ที่มั่นคง และสามารถพิสูจน์ตัวตนได้อย่างน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัลจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง คล้ายกับการที่มนุษย์เมื่อเติบโตก็ย่อมมีอัตลักษณ์ทางกายภาพ ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเกิด หรือบัตรนักเรียน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้เพื่อยืนยันตัวตนได้

Digital Identity ที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีความสามารถในการระบุว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครในพื้นที่ดิจิทัล คล้ายกับกรณีของเอกสารทางกายภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อ Digital Identity นั้นสำคัญ การเกิดขึ้นของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงเริ่มมีผลบังคับใ้ช้ และเริ่มไม่ให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ละเมิดในการเข้าถึง Digital Identity โดยไม่ได้รับอนุญาต คล้ายกับกรณีของการนำบัตรประจำตัวประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อแลกของรางวัลโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนว่าจะถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือไม่

“ชื่อ และที่อยู่อีเมลเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ตัวตนในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการฉ้อโกงและการแอบอ้าง ดังที่เราได้ยินข่าวการหลอกลวงทางออนไลน์ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากอยู่เสมอ Digital Identity ที่แข็งแกร่งจึงเป็นรากฐานสำคัญของการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการธนาคาร การเข้าถึงบริการทางการเงิน หรือแม้แต่การซื้อประกันภัยต่าง ๆ ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ นามสกุล หรือแม้แต่สถานที่เดินทาง กลายเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องได้รับการยืนยันอย่างแม่นยำ”

Digital Transformation คือตัวเร่ง

Penny Chai อธิบายว่า Digital Transformation เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Digital Identity ทวีความสำคัญยิ่งขึ้น การดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบันจำเป็นต้องมีร่องรอยดิจิทัลเพื่อการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกรรม และการเข้าถึงบริการต่างๆ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ความจำเป็นนี้ชัดเจนขึ้น เมื่อการปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพถูกจำกัด การพิสูจน์ตัวตนออนไลน์จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสังคม

“ในระยะแรก การพิสูจน์ตัวตนออนไลน์อาจทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน แต่ในเวลาต่อมา เราตระหนักดีว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกคาดเดาหรือถูกโจรกรรมได้ง่าย การโจรกรรมบัญชีออนไลน์ และการแอบอ้างตัวตน (Identity Theft) กลายเป็นปัญหาที่แพร่หลาย ทำให้เราต้องพัฒนากระบวนการพิสูจน์ตัวตนที่เข้มงวดและต่อเนื่องมากขึ้น นี่คือที่มาของความพยายามในการสร้าง Digital Identity ที่เชื่อถือได้และปลอดภัย และนี่คือสิ่งที่ Sumsub มุ่งมั่นที่จะพัฒนา”

แม้ว่าการเข้าถึงบริการทางการเงินจะเป็นหนึ่งในประโยชน์ที่ชัดเจนของ Digital Identity แต่ Penny Chai มองว่าขอบเขตของมันกว้างขวางกว่านั้นมาก Digital Identity เป็นพื้นฐานสำคัญของการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง แต่ต้องควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน การแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ต้องอยู่ภายใต้กรอบของความยินยอมและความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบของผู้ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงทาง Sumsub เอง

เจาะเทรนด์ Digital Identity กับ Sumsub หนึ่งในผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนชั้นนำของโลก-2.webp


ตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้ Digital Identity

Penny Chai ยกตัวอย่างว่า หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มดำเนินการสร้างระบบ Digital Identity ของตนเองแล้ว เช่น ฐานข้อมูล Aadhaar ของอินเดีย ระบบ BBS ของออสเตรเลีย MyInfo ของสิงคโปร์ และ CPF ของบราซิล ประเทศเหล่านี้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีฐานข้อมูลกลางที่น่าเชื่อถือสำหรับ Digital Identity ของพลเมือง ซึ่งในประเทศไทยจะมี ThaiID รวมถึง NDID ที่เป็นอีกตัวอย่างที่ดีในการประยุกต์ใช้

สำหรับกระบวนการพิสูจน์ตัวตนทางดิจิทัล (e-KYC: Electronic Know Your Customer) ที่คุ้นเคยกันดี เช่น การแสดงบัตรประชาชนและถ่ายภาพเซลฟี่เพื่อยืนยันตัวตนนั้น เป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายังสามารถตรวจสอบความมีชีวิต (Liveness Detection) และเปรียบเทียบใบหน้า (Facial Comparison) เพื่อป้องกันการปลอมแปลงได้อีกด้วย ซึ่ง Sumsub สามารถเข้าไปช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ด้วยการร่วมมือกับรัฐบาลต่าง ๆ เพื่อรับหน้าที่ยืนยันตัวตน พร้อมตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานรัฐ

“การทำแบบนี้ช่วยให้ผู้ที่เคยถูกกีดกันทางการเงินสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน, เปิดบัญชี, โอนเงิน หรือแม้กระทั่งกู้ยืมเงินได้ ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ที่ไม่เคยมี Identity หรืออัตลักษณ์ใด ๆ มาก่อน” Penny Chai กล่าว พร้อมยกตัวอย่างปัญหาในการยืนยันตัวตนในปัจจุบัน เช่น ตัวระบบมีขั้นตอนที่ซับซ้อน รวมถึงทำให้ผู้ใช้เสียเวลา และสร้างผลเสียให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ต้องการลูกค้ามาใช้บริการ

สร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัย และความสะดวก

ตัวอย่างของความยุ่งยากมีจะเป็นเรื่องการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่บางแพลตฟอร์มต้องขอข้อมูลบัตรประชาชนทั้งหน้า และหลัง รวมถึงการถ่ายภาพเซลฟี่เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งบางขั้นตอนบริษัทมองว่ามากเกินความจำเป็น ทำให้การสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัย และความสะดวกสบายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาว่าเมื่อใดควรมีขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่เข้มงวด และเมื่อใดควรลดขั้นตอนลงเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี

“แนวคิดของ "Reusable ID" เป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนา Digital Identity แทนที่ผู้ใช้งานจะต้องทำการยืนยันตัวตนซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับแต่ละบริการ หากมีระบบ Reusable ID ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ชุดข้อมูลอัตลักษณ์ที่ได้รับการยืนยันแล้วเพื่อเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและประหยัดเวลาได้อย่างมาก Sumsub เองก็กำลังพัฒนาโซลูชันในลักษณะนี้ เพื่อให้การยืนยันตัวตนเป็นไปอย่างราบรื่นในหลากหลายภาคส่วนและข้ามพรมแดน”

สำหรับตัวอย่างของ Reuseable ID ที่ Sumsub จะให้บริการนั้นหากผู้ใช้งานเคยยืนยันตัวตนกับบริการหนึ่งของ Sumsub แล้ว เมื่อต้องการใช้บริการอื่นที่อยู่ภายใต้ Sumsub ก็ไม่จำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากและประหยัดเวลาได้อย่างมาก เช่น เมื่อผู้ใช้ยืนยันตัวตนกับบริษัท A ที่ใช้บริการของ Subsub และต่อมาต้องการใช้บริการของบริษัท B ที่ใช้บริการของ Sumsub เช่นกัน ก็สามารถใช้ข้อมูลเดิมได้ เพียงแต่มีการตรวจสอบเล็กน้อย เช่น ถ่ายเซลฟี่ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน

เจาะเทรนด์ Digital Identity กับ Sumsub หนึ่งในผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนชั้นนำของโลก-3.webp


ปลอดภัยตามหลักเกณฑ์การควบคุมข้อมูล

ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจะถูกเข้ารหัสและจัดเก็บอย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน GDPR และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เพราะ Sumsub ในฐานะที่เป็นกลาง จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของผู้ใช้งานจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด โดยปัจจุบัน Sumsub มีลูกค้าที่ใช้งานระบบ Reusable ID แล้วกว่า 1 ล้านราย และคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ขณะเดียวกันจากรายงาน Fraud Report 2024 ของ Sumsub พบว่า อัตราการฉ้อโกงทางตัวตนทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วงปี 2021 ถึง 2024 และในปี 2024 การฉ้อโกงทางตัวตนมีแนวโน้มหลักคือ Democratization of Fraud ซึ่งหมายถึงการที่กลุ่มนักต้มตุ๋นสามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้ถึง 2,500,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในหนึ่งเดือน โดยใช้เงินทุนเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเกือบครึ่งหนึ่งของบริษัท (45%) และผู้ใช้งาน (44%) รายงานว่าตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงทางตัวตน

สำหรับเอกสารที่ถูกปลอมแปลงมากที่สุดคือ บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ของประเทศไอซ์แลนด์เป็นเอกสารที่ถูกปลอมแปลงบ่อยที่สุด ส่วนประเทศอาร์เจนตินามีอัตราการเติบโตของการฉ้อโกงสูงสุด (509%) ในขณะที่ประเทศโอมานมีจำนวนผู้สมัครที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการฉ้อโกงมากที่สุด และประเทศเกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตของการโจมตีด้วย Deepfake สูงที่สุด (735%) และ Deepfake ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่สำคัญ เช่น กระบวนการเลือกตั้ง

เจาะเทรนด์ Digital Identity กับ Sumsub หนึ่งในผู้ให้บริการระบบยืนยันตัวตนชั้นนำของโลก-4.webp


Topics:
Sumsub
DigitalID
Fraud

Continue reading...
 

กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม ด้านล่าง