ทรงมาดีมากกับ Clair Obscur: Expedition 33 เกม Turn-based RPG สายฝรั่งเศส ที่มีกำหนดขาย 24 เมษายน (พรุ่งนี้) ตอนนี้คะแนนรีวิวออกแล้ว คะแนนเฉลี่ยออกมาในระดับสูงมากคือ 92/100 บน Metacritic และ 92% บน OpenCritic สูงเป็นอันดับ 1 (ร่วม) ของเกมปี 2025 ที่ออกขายมาทั้งหมด (เฉือนชนะ Split Fiction ที่ได้ 91/100) กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งชิงตำแหน่งเกมยอดเยี่ยมของปี 2025 อีกราย
Clair Obscur: Expedition 33 เป็นเกม RPG ของสตูดิโอหน้าใหม่ชื่อ Sandfall Interactive จากฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 2020 โดย Guillaume Broche ผู้กำกับของเกมที่เคยอยู่กับ Ubisoft มาก่อน เคยมีผลงานอยู่ในทีม Ghost Recon Breakpoint, The Division 2 และเกมตระกูล Might & Magic ทั้งสตูดิโอมีนักพัฒนาประมาณ 30 คน และใช้เอนจิน Unreal Engine 5
เนื้อเรื่องของเกมเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจจากยุโรปยุค Belle Epoque มีเทพธิดาชื่อ Paintress ตื่นขึ้นมาแล้ววาดตัวเลขลงบนแผ่นหิน คนที่อายุตามเลขจะต้องตายทั้งหมด และตัวเลขจะลดลงเรื่อยๆ
การตื่นครั้งล่าสุด Paintress วาดเลข 33 เท่ากับอายุของกลุ่มตัวเอก (32 กำลังขึ้น 33) จึงต้องออกเดินทางเพื่อหยุดยั้งหายนะของโลกในครั้งนี้ ตัวละครแต่ละคนในปาร์ตี้ต่างสูญเสียคนที่รักจากการตื่นของเทพธิดาในครั้งก่อนๆ
ทีมพัฒนาเกมระบุชัดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเกม RPG คลาสสิกอย่าง Final Fantasy แต่ปรับปรุงระบบเกมแบบเทิร์นเบส โดยใส่ไอเดียจาก Persona และ Sekiro เข้ามา สามารถกดหลบหรือสกัดกั้น (parry) การโจมตีของศัตรูในจังหวะที่ถูกต้อง
สื่อเกมชื่อดังบางแห่งให้คะแนนระดับเต็มหรือเกือบเต็ม กลุ่มที่ให้คะแนนเต็มได้แก่ DualShockers ให้ 10/10 ชื่นชมเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ ระบบต่อสู้แบบเทิร์นเบสแต่มีมิติ จังหวะและความยาวของเกมที่กำลังพอดีๆ และ TheGamer ให้ 5/5 ชมวิธีการเล่าเรื่อง ระบบต่อสู้ งานภาพ เสียงพากย์ ดนตรีประกอบ ทั้งสองเว็บวิจารณ์ตรงกันว่าข้อเสียคือเกมไม่มี minimap ให้
สื่อเกมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ส่วนใหญ่ให้คะแนนเกือบเต็ม ได้แก่
Clair Obscur
Games
Continue reading...
Clair Obscur: Expedition 33 เป็นเกม RPG ของสตูดิโอหน้าใหม่ชื่อ Sandfall Interactive จากฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 2020 โดย Guillaume Broche ผู้กำกับของเกมที่เคยอยู่กับ Ubisoft มาก่อน เคยมีผลงานอยู่ในทีม Ghost Recon Breakpoint, The Division 2 และเกมตระกูล Might & Magic ทั้งสตูดิโอมีนักพัฒนาประมาณ 30 คน และใช้เอนจิน Unreal Engine 5
เนื้อเรื่องของเกมเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจจากยุโรปยุค Belle Epoque มีเทพธิดาชื่อ Paintress ตื่นขึ้นมาแล้ววาดตัวเลขลงบนแผ่นหิน คนที่อายุตามเลขจะต้องตายทั้งหมด และตัวเลขจะลดลงเรื่อยๆ
การตื่นครั้งล่าสุด Paintress วาดเลข 33 เท่ากับอายุของกลุ่มตัวเอก (32 กำลังขึ้น 33) จึงต้องออกเดินทางเพื่อหยุดยั้งหายนะของโลกในครั้งนี้ ตัวละครแต่ละคนในปาร์ตี้ต่างสูญเสียคนที่รักจากการตื่นของเทพธิดาในครั้งก่อนๆ
ทีมพัฒนาเกมระบุชัดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเกม RPG คลาสสิกอย่าง Final Fantasy แต่ปรับปรุงระบบเกมแบบเทิร์นเบส โดยใส่ไอเดียจาก Persona และ Sekiro เข้ามา สามารถกดหลบหรือสกัดกั้น (parry) การโจมตีของศัตรูในจังหวะที่ถูกต้อง
สื่อเกมชื่อดังบางแห่งให้คะแนนระดับเต็มหรือเกือบเต็ม กลุ่มที่ให้คะแนนเต็มได้แก่ DualShockers ให้ 10/10 ชื่นชมเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ ระบบต่อสู้แบบเทิร์นเบสแต่มีมิติ จังหวะและความยาวของเกมที่กำลังพอดีๆ และ TheGamer ให้ 5/5 ชมวิธีการเล่าเรื่อง ระบบต่อสู้ งานภาพ เสียงพากย์ ดนตรีประกอบ ทั้งสองเว็บวิจารณ์ตรงกันว่าข้อเสียคือเกมไม่มี minimap ให้
สื่อเกมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ส่วนใหญ่ให้คะแนนเกือบเต็ม ได้แก่
- Destructoid ให้ 9.5/10 ชมระบบต่อสู้ การพัฒนาความสามารถตัวละคร โลกในเกมที่สวยงาม เสียงพากย์ ดนตรีประกอบ
- Gamespot ให้ 9/10 ชมเนื้อเรื่อง ตัวละคร การยกเครื่องระบบเทิร์นเบสผสมแอคชั่น ทักษะของตัวละครที่แตกต่างกัน การต่อสู้กับบอสบางตัวที่น่าจดจำ และโลกในเกมที่สวยงาม
- IGN ให้ 9/10 เนื้อเรื่องดี ระบบการต่อสู้ยอดเยี่ยม ชวนให้รำลึกถึงเกม RPG คลาสสิคหลายเกม
- Pushsquare ให้ 9/10 ชมเนื้อเรื่อง มุมมองแบบภาพยนตร์ในเกม ระบบการต่อสู้ การสำรวจโลกในเกม แต่วิจารณ์ลิปซิงก์ของตัวละครยังไม่ดีนัก
- GameInformer ให้ 9/10 ชมเนื้อเรื่อง การต่อสู้ งานภาพดูมีสไตล์ ความกล้าในการนำเกม RPG เทิร์นเบสแบบดั้งเดิมมาทำใหม่
- GamesRadar+ ให้ 4.5/5 นิยามว่ามันคือ JRPG ยุคเก่าที่มีความไดนามิกแบบ Persona และมีระบบการต่อสู้ที่เน้น parry ยากๆ แบบ Sekiro แต่ก็วิจารณ์เรื่อง minimap อีกเหมือนกัน
Clair Obscur
Games
Continue reading...